การก้าวไปสู่การเป็น Thailand Next นั้น ต้องการการตัดสินใจของรัฐในจุดเปลี่ยนนำสำคัญต่าง ๆ ที่เป็น Center of Gravity เพื่อเริ่มต้นกระบวนการของการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญสุดของไทยในรอบ 60 ปี ซึ่งความสำเร็จในเรื่องนี้จะมาจากความรวดเร็วของไทยในการปรับตัว ความสามารถในการเลือกเส้นทาง รวมทั้งความมีประสิทธิภาพในการบริหารผลกระทบจากการที่บริบทรอบ ๆ ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตาม The Great Disruption ซึ่งกำลังส่งผลที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นใน 10-20 ปีข้างหน้า ทั้งด้าน Technology Disruption ภายใต้การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ด้านเศรษฐกิจที่ศูนย์กลางความเจริญของเศรษฐกิจโลกกำลังย้ายมาอยู่ที่เอเชีย ทำให้ไทยมีคู่แข่งทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และ AI ด้านการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศจาก Global Warming และ Global Boiling ตลอดจนด้านความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างมหาอำนาจ โดยเฉพาะการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

“ก้าวแรก สำคัญสุด ยากสุด ลังเลที่สุด แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเปลี่ยนใหญ่ ที่กำหนดอนาคตของทุกคนต่อไป”
สำหรับด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่กำลังถูกคิดค้นขึ้นในรอบนี้ ที่เป็น General Purposed Technologies เช่น AI กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น กำลังพัฒนาไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด โดยภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 2 ปี ขีดความสามารถของ Generative AI ที่นำโดย ChatGPT ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และถูกนำไปประยุกต์ใช้กับทุกกิจกรรม ทุกธุรกิจ เปิดพื้นที่ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
ส่วนการที่ศูนย์กลางความเจริญของเศรษฐกิจโลกกำลังย้ายเข้ามาที่เอเชียนั้น นอกจากประเทศจีนที่กำลังจะพัฒนาเป็นเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกแล้ว อินเดียและอาเซียนเป็นเศรษฐกิจที่น่าจับตามองเช่นกัน โดยอินเดียกำลังเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างรวดเร็ว สร้างสรรค์ Startups ใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และใช้ประโยชน์จากการที่เป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก มีตลาดภายในประเทศที่ลึกและกว้างขวางมาเป็นแรงเหวี่ยงในการพัฒนาตนเองเพื่อก้าวขึ้นเป็นเศรษฐกิจอันดับสามของโลก ส่วนอาเซียนที่นักลงทุนมองว่าเป็นประตูสำคัญสู่ตลาดเอเชีย และกำลังได้รับอานิสงส์จากการที่เงินทุนจำนวนมากไหลออกจากจีนเพื่อหาพื้นที่ใหม่ที่เป็นกลางมากขึ้น ซึ่งจะช่วยอาเซียนยกระดับเทคโนโลยีและความสามารถในการสร้างรายได้ ก้าวขึ้นเป็นเศรษฐกิจอันดับ 4 ของโลกต่อไป

ในด้าน Global Warming และ Global Boiling เป้าหมายของ Carbon Neutrality และ Net Zero ที่ทุกประเทศและทุกองค์กรได้ประกาศมานั้น เป็นเป้าหมายที่ยากต่อการบรรลุ และมีความเป็นไปได้สูงที่ระดับของก๊าซเรือนกระจกจะทะลุเพดานที่ทุกประเทศกำหนดไว้ ซึ่งหมายความว่ากฏระเบียบต่าง ๆ ที่ประเทศพัฒนาแล้วทยอยประกาศออกมา เพื่อหยุดยั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อนำไปสู่ Low Carbon Economy ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเช่นกัน และจะมีความเข้มงวดเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ ธุรกิจต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง

ท้ายสุด ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและจีน ตลอดจน Hotspots ที่กำลังเกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง ทะเลจีนใต้ กำลังนำไปสู่การแบ่งฝ่าย เลือกข้าง มีโอกาสบานปลาย กระทบถึงความมั่นคงของทุกประเทศ นอกจากนี้ ในความขัดแย้ง ยังใช้เครื่องมือทุกด้านที่มีเข้าประกอบ ทำให้การเผชิญหน้าด้านความมั่นคง ลุกลามไปสู่การเผชิญหน้าด้านเศรษฐกิจ นำไปสู่ยุคใหม่ของ De-Globalization, Fragmentation และการแบ่งขั้วทางเทคโนโลยี
ภายใต้บริบทเช่นนี้ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศไทยต้องเปลี่ยนตัวของเราเอง ให้พร้อมรับกับความท้าทายข้างหน้า โดย “ซ่อมฐานราก” เพื่อปิดจุดอ่อน ปลดปล่อยพลังของทุกภาคส่วน นำพลังของทุกส่วนไปช่วยกันพัฒนาประเทศ “ผลัดใบเศรษฐกิจ” เพื่อสร้างเครื่องยนต์ใหม่ให้ระบบเศรษฐกิจ ที่สอดรับกับยุค Technology Disruption และ Low Carbon Economy เพื่อใช้ในการแข่งขัน สร้างรายได้ของประเทศ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของอาเซียนและเอเชีย “ยกเครื่องระบบราชการ” เพื่อให้ภาครัฐสามารถเป็นแรงส่ง ช่วยในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยลดภาระ ข้อจำกัด ต้นทุนแฝงที่มีอยู่ในระบบ และ “เสริมสร้างกองทัพ รองรับความท้าทาย” เพื่อยกระดับกองทัพไทยสู่อนาคต ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับชาติ ในยุคของการเผชิญหน้าและเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้
เรามีเวลาไม่มากที่จะเริ่มกระบวนการของการเปลี่ยนแปลง โดยท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้น โอกาสที่ยิ่งใหญ่กำลังเปิดตัวขึ้นเช่นกัน ที่หากเรามีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง กล้าตัดสินใจ กล้าลงทุนในเรื่องที่สำคัญ กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า โดยสานพลังจากทุกภาคส่วน เราก็จะสามารถหยิบฉวยโอกาสที่เปิดขึ้นนี้ให้กับคนไทย ใช้เป็นโอกาสในการพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด สามารถยืนหยัดได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่น้อยหน้าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
ก้าวแรก คือ ก้าวที่สำคัญสุด ยากสุด ลังเลที่สุด นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 66 หวังว่าข้อเสนอ “เปลี่ยนใหญ่ประเทศไทย: Thailand Next” ที่ได้มาจากการจัดทำยุทธศาสตร์ของรุ่นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จะช่วยจุดประกาย เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศ ที่จะกำหนดอนาคตของลูกหลานคนไทยต่อไป